1. หน้าแรก
  2. VoiceOver
  3. คู่มือฉบับสมบูรณ์ในการใช้งาน VoiceOver บน Mac
Social Proof

คู่มือฉบับสมบูรณ์ในการใช้งาน VoiceOver บน Mac

Speechify เป็นโปรแกรมสร้างเสียง AI อันดับ 1 สร้างเสียงบรรยายคุณภาพสูงในเวลาจริง บรรยายข้อความ วิดีโอ อธิบาย – ทุกอย่างที่คุณมี – ในสไตล์ใดก็ได้

กำลังมองหา โปรแกรมอ่านออกเสียงข้อความของเราอยู่หรือเปล่า?

แนะนำใน

forbes logocbs logotime magazine logonew york times logowall street logo

ฟังบทความนี้ด้วย Speechify!
Speechify

ความมุ่งมั่นของ Apple ในการเข้าถึงได้อย่างเต็มที่แสดงให้เห็นผ่านฟีเจอร์ VoiceOver ซึ่งเป็นโปรแกรมอ่านหน้าจอที่ติดตั้งมาในตัว ช่วยให้ผู้ใช้ Mac OS X ที่มีความสามารถต่างๆ สามารถนำทางอุปกรณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้เสนอคู่มือรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้ VoiceOver เพื่อทำให้ประสบการณ์ดิจิทัลของคุณครอบคลุมและเสริมสร้างพลังบนอุปกรณ์ Mac และ Apple ของคุณ

ความมุ่งมั่นของ Apple ในการเข้าถึงได้อย่างเต็มที่แสดงให้เห็นผ่านฟีเจอร์ VoiceOver ซึ่งเป็นโปรแกรมอ่านหน้าจอที่ติดตั้งมาในตัว ช่วยให้ผู้ใช้ Mac OS X ที่มีความสามารถหลากหลายสามารถนำทางและโต้ตอบกับอุปกรณ์ได้อย่างราบรื่น บทความนี้จะพาคุณเข้าสู่โลกของ VoiceOver โดยให้คู่มือฉบับสมบูรณ์เกี่ยวกับการใช้ฟีเจอร์นี้บนอุปกรณ์ Mac และ Apple ของคุณ ทำให้ประสบการณ์ดิจิทัลของคุณครอบคลุมและเสริมสร้างพลัง

เปิดเผยพลังของการเข้าถึงด้วย VoiceOver

VoiceOver เป็นโซลูชันการเข้าถึงที่ออกแบบมาเพื่อรองรับผู้ใช้ที่มีความต้องการหลากหลาย ตั้งแต่การมองเห็นไม่ชัดเจนไปจนถึงความท้าทายด้านทักษะการเคลื่อนไหว โดยการแปลงเนื้อหาบนหน้าจอเป็นคำพูด VoiceOver ช่วยให้ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับ Mac และอุปกรณ์ Apple อื่นๆ ได้อย่างเป็นธรรมชาติและเป็นส่วนตัว

การเปิดใช้งาน VoiceOver: ก้าวแรกของคุณ

เปิดใช้งาน VoiceOver ได้ง่ายๆ ด้วยการคลิกไม่กี่ครั้ง เพียงกดปุ่มลัด Command + F5 หรือไปที่ "System Preferences" > "Accessibility" > "VoiceOver" ในเมนู Apple ของคุณเพื่อเปิดใช้งาน นอกจากนี้ยังสามารถกดปุ่ม "Command key + Option + F5" พร้อมกันเพื่อเปิดใช้งานอย่างรวดเร็ว สำหรับผู้ที่ใช้ MacBook ที่มีเซ็นเซอร์ Touch ID ให้กดปุ่ม Touch ID ค้างไว้พร้อมกับปุ่ม "Command + Option + F5" เพื่อเปิดใช้งาน VoiceOver การตั้งค่าเริ่มต้นครั้งแรกมีการสอนอย่างละเอียด ทำให้การเปลี่ยนเข้าสู่การใช้ VoiceOver เป็นมิตรกับผู้ใช้

การนำทางด้วย VoiceOver อย่างเชี่ยวชาญ

VoiceOver ใช้ชุดคำสั่งและปุ่มลัดบนคีย์บอร์ดเพื่อช่วยในการนำทาง เช่น การสำรวจหน้าเว็บ ใช้ปุ่ม "ลูกศรขึ้น" และ "ลูกศรลง" เพื่อเลื่อนผ่านเนื้อหา "ลูกศรขวา" เพื่อข้ามไปยังองค์ประกอบถัดไป และ "ลูกศรซ้าย" เพื่อย้อนกลับ เมื่อโต้ตอบกับหัวข้อ เพียงกดปุ่ม "H" เพื่อเลื่อนระหว่างส่วนต่างๆ ฟีเจอร์อัจฉริยะของ VoiceOver ยังโดดเด่นเมื่อใช้แทร็คแพด โดยการใช้ท่าทางเช่นการปัดขึ้นหรือลงด้วยสามนิ้วเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการนำทาง

การปรับแต่งและการตั้งค่า VoiceOver

ความมุ่งมั่นของ Apple ในการปรับแต่งให้เหมาะสมกับผู้ใช้ยังขยายไปถึง VoiceOver โดยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งประสบการณ์และการตั้งค่าการแจ้งเตือนได้ ไปที่ "System Preferences" > "Accessibility" > "VoiceOver" ในแถบเมนูของคุณเพื่อสำรวจการตั้งค่า ที่คุณสามารถปรับความชัดเจนของ VoiceOver ปรับอัตราการพูด และปรับแต่งการตั้งค่าได้อย่างละเอียด VoiceOver Utility ยังมีตัวเลือกที่ครอบคลุมสำหรับการปรับแต่งท่าทาง คำสั่งคีย์บอร์ด และตัวปรับแต่ง VoiceOver เพื่อให้ประสบการณ์ตรงกับความต้องการเฉพาะของคุณ

การนำทางหน้าเว็บและอื่นๆ

VoiceOver ทำให้การท่องเว็บมีชีวิตชีวา ช่วยให้คุณสำรวจหน้าเว็บได้อย่างง่ายดาย ใน Safari เพียงใช้ปุ่มลูกศรในการนำทาง โดยมี "Space Bar" ทำหน้าที่เป็นคำสั่ง "คลิก" สำหรับลิงก์ หากคุณใช้ฟอร์ม ปุ่ม "Tab" จะช่วยให้คุณเลื่อนผ่านการควบคุมฟอร์ม และ "Option + Tab" ช่วยให้คุณนำทางผ่านองค์ประกอบในทิศทางย้อนกลับ

ปลดล็อกพลังของ VoiceOver บน iOS และ iPadOS

VoiceOver ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ macOS เท่านั้น แต่ยังขยายความสามารถที่เสริมสร้างพลังไปยังอุปกรณ์ iOS และ iPadOS ไม่ว่าคุณจะใช้ iPhone หรือ iPad VoiceOver มอบประสบการณ์ที่สอดคล้องและเป็นธรรมชาติ ทำให้ระบบนิเวศของ Apple เข้าถึงได้มากกว่าที่เคย นอกจากนี้ยังมีตัวเลือก VoiceOver ที่แตกต่างกันในอุปกรณ์ Microsoft และ Android ด้วย

จอแสดงผลอักษรเบรลล์และ VoiceOver

สำหรับผู้ใช้ที่เชี่ยวชาญในอักษรเบรลล์ การเข้ากันได้ของ VoiceOver กับจอแสดงผลอักษรเบรลล์ช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วม โดยการเชื่อมต่อจอแสดงผลอักษรเบรลล์ ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเนื้อหาบนหน้าจอผ่านการป้อนและแสดงผลอักษรเบรลล์ ทำลายอุปสรรคในการเข้าถึงข้อมูลและการสื่อสาร

ความหลากหลายและอนาคตของ VoiceOver

การออกแบบและฟังก์ชันการทำงานที่ใช้งานง่ายของ VoiceOver ทำให้มันเป็นฟีเจอร์การเข้าถึงที่โดดเด่น ด้วยความมุ่งมั่นของ Apple ในการนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ความสามารถของ VoiceOver กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์และระบบปฏิบัติการของ Apple ต่างๆ ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์ที่สอดคล้องและเสริมสร้างพลังในระบบนิเวศ

การเข้าถึงที่ไร้ขอบเขต

VoiceOver ของ Apple ไม่ใช่แค่โปรแกรมอ่านหน้าจอ แต่เป็นสะพานที่เชื่อมต่อผู้ใช้กับเทคโนโลยีและเสริมสร้างพลังให้พวกเขาได้มีส่วนร่วมในโลกที่การเข้าถึงไม่มีขอบเขต จาก Macbook ถึง iPhone คำสั่งคีย์บอร์ดของ VoiceOver คำสั่ง VoiceOver และการนำทางที่ใช้งานง่ายได้กำหนดนิยามใหม่ของการเข้าถึงและสร้างภูมิทัศน์ดิจิทัลที่รองรับความต้องการเฉพาะของทุกคน ทำให้ระบบปฏิบัติการของ Apple ไม่ใช่แค่แพลตฟอร์ม แต่เป็นโอกาสในการเสริมสร้างพลัง

ใช้ตัวเลือก VoiceOver จาก Speechify

การใช้ประโยชน์จากความสามารถของ Speechify Voice Over บน Mac มอบประสบการณ์ที่เปลี่ยนแปลงในด้านการเข้าถึงและการบริโภคเนื้อหา เครื่องมือที่ทรงพลังนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถมีส่วนร่วมกับเนื้อหาที่เขียนได้อย่างง่ายดายผ่านคำพูด ทำให้เป็นทรัพย์สินที่มีค่าสำหรับผู้ที่มีความบกพร่องทางการมองเห็นหรือใครก็ตามที่ต้องการวิธีการโต้ตอบกับข้อความที่มีชีวิตชีวา โดยการผสานรวมกับระบบปฏิบัติการ macOS อย่างไร้รอยต่อ Speechify Voice Over ช่วยให้ผู้ใช้สามารถนำทางเอกสาร หน้าเว็บ และแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้โดยใช้คีย์ลัดและคำสั่งที่ใช้งานง่าย ด้วย Speechify Voice Over ผู้ใช้ Mac ไม่เพียงแต่สามารถเพิ่มประสบการณ์การอ่านของตนเอง แต่ยังสามารถปรับแต่งการตั้งค่าให้ตรงกับความชอบของตนเอง สร้างสภาพแวดล้อมดิจิทัลที่เป็นส่วนตัวและครอบคลุมที่สอดคล้องกับความต้องการเฉพาะของพวกเขา

Cliff Weitzman

คลิฟ ไวซ์แมน

คลิฟ ไวซ์แมน เป็นผู้สนับสนุนด้านดิสเล็กเซียและเป็น CEO และผู้ก่อตั้ง Speechify แอปพลิเคชันแปลงข้อความเป็นเสียงอันดับ 1 ของโลก ที่มีรีวิว 5 ดาวมากกว่า 100,000 รีวิว และครองอันดับหนึ่งใน App Store ในหมวดข่าวและนิตยสาร ในปี 2017 ไวซ์แมนได้รับการยกย่องในรายชื่อ Forbes 30 under 30 จากผลงานของเขาในการทำให้อินเทอร์เน็ตเข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับผู้ที่มีความบกพร่องในการเรียนรู้ คลิฟ ไวซ์แมน ได้รับการนำเสนอใน EdSurge, Inc., PC Mag, Entrepreneur, Mashable และสื่อชั้นนำอื่น ๆ