Social Proof

สุดยอดโปรแกรมอ่าน PDF สำหรับ iPad: คู่มือครบวงจรปี 2024

Speechify เป็นโปรแกรมอ่านเสียงอันดับ 1 ของโลก อ่านหนังสือ เอกสาร บทความ PDF อีเมล - ทุกอย่างที่คุณอ่าน - ได้เร็วขึ้น

แนะนำใน

forbes logocbs logotime magazine logonew york times logowall street logo

    ฟังบทความนี้ด้วย Speechify!
    Speechify

    หนึ่งในข้อดีมากมายของการมี iPad คือความสามารถในการดู แก้ไข และจัดการไฟล์ PDF ด้วยแอปมากมายที่มีใน App Store,...

    หนึ่งในข้อดีมากมายของการมี iPad คือความสามารถในการดู แก้ไข และจัดการไฟล์ PDF ด้วยแอปมากมายที่มีใน App Store คุณจะเลือกโปรแกรมอ่าน PDF ที่ดีที่สุดสำหรับ iPad ได้อย่างไร?

    1. ทำไมต้องหาโปรแกรมอ่าน PDF บน iPad?

    iPados ของ Apple มอบประสบการณ์การอ่านที่ราบรื่นสำหรับไฟล์หลากหลายรูปแบบ รวมถึง PDF แม้ว่า Apple Books จะมีความสามารถในการดู PDF เบื้องต้น แต่ผู้ใช้มักมองหาแอป โปรแกรมอ่าน PDF เฉพาะทางเพื่อใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติพิเศษมากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับการใช้งานในระดับมืออาชีพและการศึกษา

    2. Adobe Acrobat Reader สำหรับ iPad

    ใช่ Adobe Acrobat Reader มีให้ใช้งานบน iPad และเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ใช้ iPhone และ iPad ช่วยให้เปิด อ่าน และใส่คำอธิบายประกอบใน PDF ได้ รุ่นฟรีมีคุณสมบัติหลากหลาย แต่ความสามารถบางอย่างเช่นการแก้ไขข้อความอาจต้องซื้อในแอป

    3. PDF Expert vs. Adobe Reader

    PDF Expert ของ Readdle โดดเด่นเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะบน iPad Pro อินเทอร์เฟซใช้งานง่าย ช่วยให้ผู้ใช้ใส่คำอธิบายประกอบ แก้ไข PDF และแม้กระทั่งแปลง PDF เป็น Word, Excel หรือ PowerPoint หลายคนถือว่า PDF Expert เหนือกว่าเนื่องจากความเร็วและชุดคุณสมบัติที่กว้างขวาง

    8 แอปอ่าน PDF ยอดนิยมสำหรับ iPad

    1. Adobe Acrobat Reader: มีตัวเลือกการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์เช่น Dropbox, OneDrive, Google Drive และ Box มีเครื่องมือใส่คำอธิบายประกอบและโหมดกลางคืนเพื่อประสบการณ์การอ่านที่ดีขึ้น
    2. PDF Expert by Readdle: รู้จักกันดีในเรื่องการแสดงผล PDF ที่รวดเร็วและตัวจัดการไฟล์ที่แข็งแกร่ง รองรับ Apple Pencil ทำให้การทำเครื่องหมายและใส่คำอธิบายประกอบเป็นเรื่องง่าย
    3. GoodReader: ไม่ใช่แค่โปรแกรมดู PDF แต่ยังรองรับเอกสาร HTML และไฟล์รูปแบบอื่น ๆ อีกมากมาย มีการรวมบริการคลาวด์
    4. iAnnotate: เน้นการใส่คำอธิบายประกอบใน PDF รองรับโน้ตสติ๊กกี้ ขีดเส้นใต้ และเน้นข้อความ นอกจากนี้ยังมีแถบเครื่องมือที่สะดวกสำหรับการเข้าถึงง่าย
    5. Foxit PDF: มีโปรแกรมแก้ไข PDF ที่ทรงพลัง ความสามารถในการแปลงข้อความเป็นเสียง และตัวเลือกการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์
    6. Apple Books: นอกเหนือจากการอ่านหนังสือเสียงแล้ว ยังมีความสามารถในการดู PDF และบุ๊กมาร์กพื้นฐาน
    7. PDFelement: รู้จักกันดีในเรื่องความสามารถ OCR ในการแปลง PDF ที่สแกนเป็นรูปแบบที่แก้ไขและค้นหาได้
    8. iBooks: แอปอ่านในตัวของ iOS มีประโยชน์สำหรับการดู PDF เบื้องต้น

    จำไว้ว่า แม้ว่าแอปหลายตัวจะมีรุ่นฟรี แต่คุณสมบัติขั้นสูงบางอย่างอาจต้องซื้อในแอป แอป โปรแกรมอ่าน PDF ที่ดีที่สุด สำหรับ iPad จะขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านง่าย ๆ การใส่คำอธิบายประกอบเชิงลึก หรือการรวมคลาวด์ ระบบนิเวศของ iPad มีให้คุณครบครัน

    การเลือกแอป PDF เกี่ยวข้องกับการพิจารณาความเข้ากันได้กับแพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Android, Windows หรือ Mac คุณสมบัติเช่นการแปลงข้อความเป็นเสียง การสนับสนุนการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ (เช่น iCloud, Google Drive หรือ OneDrive) และความเข้ากันได้ของรูปแบบไฟล์สร้างความแตกต่างอย่างมาก เมื่อ iPad ยังคงพัฒนาไป เครื่องมือที่มีสำหรับการจัดการ PDF ก็จะพัฒนาตามไปด้วย โดยมอบประสบการณ์การจัดการเอกสาร PDF ที่ครอบคลุมมากกว่าการอ่าน PDF เพียงอย่างเดียว

    Cliff Weitzman

    คลิฟ ไวซ์แมน

    คลิฟ ไวซ์แมน เป็นผู้สนับสนุนด้านดิสเล็กเซียและเป็น CEO และผู้ก่อตั้ง Speechify แอปพลิเคชันแปลงข้อความเป็นเสียงอันดับ 1 ของโลก ที่มีรีวิว 5 ดาวมากกว่า 100,000 รีวิว และครองอันดับหนึ่งใน App Store ในหมวดข่าวและนิตยสาร ในปี 2017 ไวซ์แมนได้รับการยกย่องในรายชื่อ Forbes 30 under 30 จากผลงานของเขาในการทำให้อินเทอร์เน็ตเข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับผู้ที่มีความบกพร่องในการเรียนรู้ คลิฟ ไวซ์แมน ได้รับการนำเสนอใน EdSurge, Inc., PC Mag, Entrepreneur, Mashable และสื่อชั้นนำอื่น ๆ