Social Proof

แอปไหนอ่านให้คุณฟัง?

Speechify เป็นโปรแกรมสร้างเสียง AI อันดับ 1 สร้างเสียงบรรยายคุณภาพสูงในเวลาจริง บรรยายข้อความ วิดีโอ อธิบาย – ทุกอย่างที่คุณมี – ในสไตล์ใดก็ได้

กำลังมองหา โปรแกรมอ่านออกเสียงข้อความของเราอยู่หรือเปล่า?

แนะนำใน

forbes logocbs logotime magazine logonew york times logowall street logo

ฟังบทความนี้ด้วย Speechify!
Speechify

คุณเคยฝันอยากมีแอปที่อ่านให้คุณฟังไหม? ไอเดียนี้อาจฟังดูเหมือนฝันที่เป็นจริงสำหรับหลายคน เพราะมันเปิดโลกใหม่ของความเป็นไปได้...

คุณเคยฝันอยากมีแอปที่อ่านให้คุณฟังไหม? ไอเดียนี้อาจฟังดูเหมือนฝันที่เป็นจริงสำหรับหลายคน เพราะมันเปิดโลกใหม่ของความเป็นไปได้ในแง่ของการเข้าถึงและความสะดวกสบาย ในบทความนี้ เราจะสำรวจแนวคิดของเทคโนโลยีแปลงข้อความเป็นเสียง (TTS) และแอปต่างๆ ที่ใช้เทคโนโลยีนี้ พร้อมทั้งคุณสมบัติ ค่าใช้จ่าย และประโยชน์ของพวกมัน

เทคโนโลยีแปลงข้อความเป็นเสียงคืออะไร?

เทคโนโลยีแปลงข้อความเป็นเสียง หรือที่เรียกว่า TTS เป็นเทคโนโลยีช่วยเหลือที่อ่านข้อความดิจิทัลออกเสียง เป็นเครื่องมือที่มีค่าสำหรับผู้ที่มีความบกพร่องทางร่างกาย ผู้เรียน และใครก็ตามที่ชอบทำหลายอย่างพร้อมกันขณะบริโภคเนื้อหา

10 กรณีการใช้งานสำหรับ ทำไมต้องใช้เทคโนโลยีแปลงข้อความเป็นเสียง

  1. ช่วยเหลือผู้ที่มีความบกพร่อง: TTS ช่วยผู้ที่มีปัญหาดิสเล็กเซีย ตาบอด หรือความบกพร่องอื่นๆ โดยการแปลงข้อความเป็นเสียง ทำให้พวกเขาสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น
  2. สนับสนุนผู้เรียนหลายภาษา: TTS สามารถอ่านข้อความในภาษาต่างๆ ช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะภาษา
  3. เพิ่มประสิทธิภาพ: TTS ช่วยให้คุณทำหลายอย่างพร้อมกันได้โดยการฟังเอกสารหรือหน้าเว็บขณะทำกิจกรรมอื่น
  4. เพิ่มความเข้าใจ: สำหรับบางคน การฟังข้อความสามารถเพิ่มความเข้าใจและการจดจำข้อมูล
  5. หนังสือเสียงที่เข้าถึงได้: แอป TTS สามารถแปลงอีบุ๊คและไฟล์ PDF เป็นหนังสือเสียง ให้เป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่าหนังสือเสียงแบบดั้งเดิม
  6. อ่านเอกสารยาว: TTS สามารถใช้เพื่ออ่านเอกสารยาวๆ ช่วยประหยัดเวลาและความพยายาม
  7. รองรับรูปแบบต่างๆ: แอป TTS รองรับรูปแบบหลากหลาย เช่น DOCX, EPUB และไฟล์ MP3 ให้ความยืดหยุ่นในการบริโภคเนื้อหา
  8. การเข้าถึงแบบออฟไลน์: แอป TTS หลายแอปมีฟังก์ชันออฟไลน์ ให้คุณเข้าถึงเนื้อหาโดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
  9. การปรับแต่งเสียง: แอป TTS บางแอปมีตัวเลือกในการเปลี่ยนเสียง ความเร็ว และระดับเสียงของเสียงพูด สร้างประสบการณ์การฟังที่เป็นส่วนตัว
  10. การรวมเข้ากับแอปอื่น: เทคโนโลยี TTS สามารถรวมเข้ากับแอปอื่น เช่น Google Docs, Dropbox และ Microsoft Word ให้การเข้าถึงเนื้อหาอย่างราบรื่น

มีแอปที่แปลงข้อความเป็นเสียงหรือไม่?

ใช่ มีแอปแปลงข้อความเป็นเสียงหลากหลายสำหรับอุปกรณ์ iOS, Android และ Windows โดยหลายแอปมีเวอร์ชันฟรีและคุณสมบัติเพิ่มเติมผ่านการซื้อในแอป

โทรศัพท์ของฉันสามารถอ่านหนังสือให้ฉันฟังได้ไหม?

แน่นอน! แอปแปลงข้อความเป็นเสียงหลายแอปสามารถแปลงอีบุ๊คและไฟล์ PDF เป็นหนังสือเสียง ให้คุณฟังหนังสือโปรดบนอุปกรณ์มือถือของคุณ

ความแตกต่างระหว่าง Speechify และ Audible คืออะไร?

Speechify เป็นแอปแปลงข้อความเป็นเสียงที่แปลงข้อความเป็นเสียง ให้คุณฟังหน้าเว็บ ไฟล์ PDF และรูปแบบข้อความอื่นๆ ในขณะที่ Audible เป็นแพลตฟอร์มที่มีห้องสมุดหนังสือเสียงที่บรรยายโดยมืออาชีพมากมาย

ฉันสามารถฟังหนังสือบนโทรศัพท์ของฉันได้ไหม?

ใช่ คุณสามารถฟังหนังสือบนโทรศัพท์ของคุณโดยใช้แอปแปลงข้อความเป็นเสียงหรือแพลตฟอร์มหนังสือเสียงเช่น Audible

มีแอปแปลงข้อความเป็นเสียงสำหรับ iPhone หรือไม่?

ใช่ มีแอปแปลงข้อความเป็นเสียงหลายแอปใน App Store สำหรับอุปกรณ์ iPhone และ iPad เช่น Voice Dream Reader และ NaturalReader

แอปแปลงข้อความเป็นเสียงหรือแอปที่อ่านให้คุณฟังดีกว่ากัน?

แอปทั้งสองประเภทมีวัตถุประสงค์เดียวกันในการแปลงข้อความเป็นเสียง แต่แอปแปลงข้อความเป็นเสียงมักมีตัวเลือกการปรับแต่งมากกว่า เช่น การเปลี่ยนเสียง ความเร็ว และระดับเสียง รวมถึงการรองรับรูปแบบต่างๆ

9 แอปแปลงข้อความเป็นเสียงที่ดีที่สุดที่อ่านให้คุณฟัง

Speechify แปลงข้อความเป็นเสียง

ค่าใช้จ่าย: ทดลองใช้งานฟรี

Speechify แปลงข้อความเป็นเสียง เป็นเครื่องมือที่ล้ำสมัยที่ได้ปฏิวัติวิธีที่บุคคลบริโภคเนื้อหาที่เป็นข้อความ โดยใช้เทคโนโลยีแปลงข้อความเป็นเสียงขั้นสูง Speechify แปลงข้อความที่เขียนเป็นคำพูดที่เหมือนจริง ทำให้มีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่มีความบกพร่องในการอ่าน การมองเห็น หรือเพียงแค่ผู้ที่ชอบการเรียนรู้ด้วยการฟัง ความสามารถในการปรับตัวของมันทำให้สามารถรวมเข้ากับอุปกรณ์และแพลตฟอร์มหลากหลายได้อย่างราบรื่น ให้ผู้ใช้มีความยืดหยุ่นในการฟังขณะเดินทาง

5 คุณสมบัติเด่นของ Speechify TTS:

  1. เสียงคุณภาพสูง: Speechify มีเสียงที่มีคุณภาพสูงและเหมือนจริงในหลายภาษา เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การฟังที่เป็นธรรมชาติ ทำให้เข้าใจและมีส่วนร่วมกับเนื้อหาได้ง่ายขึ้น
  2. การผสานรวมที่ราบรื่น: Speechify สามารถผสานรวมกับแพลตฟอร์มและอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เว็บเบราว์เซอร์ สมาร์ทโฟน และอื่นๆ ทำให้ผู้ใช้สามารถแปลงข้อความจากเว็บไซต์ อีเมล ไฟล์ PDF และแหล่งอื่นๆ เป็นเสียงได้อย่างรวดเร็ว
  3. การควบคุมความเร็ว: ผู้ใช้สามารถปรับความเร็วในการเล่นตามความชอบ ทำให้สามารถฟังเนื้อหาได้อย่างรวดเร็วหรือเจาะลึกในจังหวะที่ช้าลง
  4. การฟังแบบออฟไลน์: หนึ่งในคุณสมบัติที่สำคัญของ Speechify คือความสามารถในการบันทึกและฟังข้อความที่แปลงแล้วแบบออฟไลน์ ทำให้สามารถเข้าถึงเนื้อหาได้อย่างต่อเนื่องแม้ไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
  5. การเน้นข้อความ: ขณะที่ข้อความถูกอ่านออกเสียง Speechify จะเน้นส่วนที่สอดคล้องกัน ทำให้ผู้ใช้สามารถติดตามเนื้อหาที่ถูกพูดได้อย่างง่ายดาย การรับข้อมูลทั้งทางสายตาและการฟังพร้อมกันนี้สามารถเพิ่มความเข้าใจและการจดจำสำหรับผู้ใช้หลายคน

Voice Dream Reader:

ราคา: $14.99

แอปพลิเคชันแปลงข้อความเป็นเสียงที่ครอบคลุม มีเสียงและภาษาหลากหลาย ปรับความเร็วในการเล่นได้ และรองรับหลายรูปแบบ

คุณสมบัติเด่น 5 อันดับแรก:

  1. รองรับมากกว่า 30 ภาษา
  2. ปรับความเร็วในการเล่นได้
  3. ฟีเจอร์บุ๊กมาร์ก
  4. ผสานรวมกับ Dropbox และ Google Drive
  5. การทำงานแบบออฟไลน์

NaturalReader:

ราคา: มีเวอร์ชันฟรี; ซื้อในแอปเพื่อฟีเจอร์เพิ่มเติม

เครื่องมือแปลงข้อความเป็นเสียงที่หลากหลาย สามารถอ่านออกเสียงรูปแบบต่างๆ เช่น หน้าเว็บ ไฟล์ PDF และ Google Docs

คุณสมบัติเด่น 5 อันดับแรก:

  1. เทคโนโลยี OCR
  2. เสียงธรรมชาติ
  3. รองรับหลายรูปแบบ
  4. ผสานรวมกับ Google Drive และ Dropbox
  5. ปรับความเร็วในการอ่านได้

Pocket:

ราคา: มีเวอร์ชันฟรี; ซื้อในแอปเพื่อฟีเจอร์พรีเมียม

แอปที่สะดวกในการบันทึกหน้าเว็บและบทความเพื่ออ่านแบบออฟไลน์ พร้อมฟังก์ชันแปลงข้อความเป็นเสียงในตัว

คุณสมบัติเด่น 5 อันดับแรก:

  1. บันทึกหน้าเว็บเพื่ออ่านแบบออฟไลน์
  2. ฟังก์ชันแปลงข้อความเป็นเสียง
  3. ปรับแต่งเสียงอ่านได้
  4. ผสานรวมกับเว็บเบราว์เซอร์
  5. ปรับความเร็วในการเล่นได้

Voice Aloud Reader:

ราคา: มีเวอร์ชันฟรี; ซื้อในแอปเพื่อฟีเจอร์เพิ่มเติม

แอปที่หลากหลายสามารถอ่านออกเสียงข้อความจากหน้าเว็บ ไฟล์ PDF และรูปแบบอื่นๆ รองรับหลายภาษา

คุณสมบัติเด่น 5 อันดับแรก:

  1. รองรับหลายภาษา
  2. ผสานรวมกับเว็บเบราว์เซอร์และแอปอื่นๆ
  3. ปรับแต่งเสียงและความเร็วในการเล่นได้
  4. เทคโนโลยี OCR
  5. การทำงานแบบออฟไลน์

Microsoft's Read Aloud:

ราคา: ฟรี

ฟีเจอร์ในตัวของ Microsoft Edge ที่อ่านออกเสียงหน้าเว็บและไฟล์ PDF รองรับหลายภาษา

คุณสมบัติเด่น 5 อันดับแรก:

  1. ฟีเจอร์ในตัวของ Microsoft Edge
  2. รองรับหลายภาษา
  3. เสียงธรรมชาติ
  4. ปรับความเร็วในการอ่านได้
  5. เชื่อมต่อกับแอปอื่นของ Microsoft

Amazon's Kindle:

ค่าใช้จ่าย: มีเวอร์ชันฟรี; ซื้อในแอปเพื่อฟีเจอร์เพิ่มเติม

แอป Kindle ของ Amazon มีฟีเจอร์แปลงข้อความเป็นเสียงที่ให้คุณฟังอีบุ๊กของคุณได้ รองรับหลายรูปแบบและภาษา

5 ฟีเจอร์เด่น:

  1. รองรับหลายรูปแบบและภาษา
  2. เชื่อมต่อกับห้องสมุดอีบุ๊กของ Amazon
  3. ปรับความเร็วในการเล่นได้
  4. เสียงที่ปรับแต่งได้
  5. ฟีเจอร์บุ๊กมาร์ก

Google's Text-to-Speech:

ค่าใช้จ่าย: ฟรี

ฟีเจอร์ในตัวของอุปกรณ์ Android ที่แปลงข้อความเป็นเสียง รองรับหลายภาษาและเสียงธรรมชาติ

5 ฟีเจอร์เด่น:

  1. ฟีเจอร์ในตัวของอุปกรณ์ Android
  2. รองรับหลายภาษา
  3. เสียงธรรมชาติ
  4. ปรับความเร็วในการเล่นได้
  5. เชื่อมต่อกับแอปอื่นของ Google

Apple's VoiceOver:

ค่าใช้จ่าย: ฟรี

ฟีเจอร์ในตัวของอุปกรณ์ iOS ที่ให้เสียงบรรยายสิ่งที่อยู่บนหน้าจอ รองรับหลายภาษา

5 ฟีเจอร์เด่น:

  1. ฟีเจอร์ในตัวของอุปกรณ์ iOS
  2. รองรับหลายภาษา
  3. เสียงธรรมชาติ
  4. ปรับความเร็วในการเล่นได้
  5. เชื่อมต่อกับแอปอื่นของ Apple
Cliff Weitzman

คลิฟ ไวซ์แมน

คลิฟ ไวซ์แมน เป็นผู้สนับสนุนด้านดิสเล็กเซียและเป็น CEO และผู้ก่อตั้ง Speechify แอปพลิเคชันแปลงข้อความเป็นเสียงอันดับ 1 ของโลก ที่มีรีวิว 5 ดาวมากกว่า 100,000 รีวิว และครองอันดับหนึ่งใน App Store ในหมวดข่าวและนิตยสาร ในปี 2017 ไวซ์แมนได้รับการยกย่องในรายชื่อ Forbes 30 under 30 จากผลงานของเขาในการทำให้อินเทอร์เน็ตเข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับผู้ที่มีความบกพร่องในการเรียนรู้ คลิฟ ไวซ์แมน ได้รับการนำเสนอใน EdSurge, Inc., PC Mag, Entrepreneur, Mashable และสื่อชั้นนำอื่น ๆ